การเสริมดวง เสริมโชคนับว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งสำคัญสำหรับใครหลาย ๆ คน เนื่องจากทำแล้วสามารถช่วยเสริมดวงชะตาให้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง และก้าวหน้า ซึ่งการเสริมดวงในปัจจุบันก็มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเสริมดวงด้วยสีมงคล หรือการไหว้ท้าวเวสสุวรรณ เพื่อเสริมโชค ปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้ออกไปจากชีวิต แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเสริมดวงได้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ การทาน ขนมไทยมงคล เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่เชื่อว่าใครหลายคนไม่ทราบว่าสามารถเสริมดวงได้
ซึ่งในวันนี้พวกเราชาว TOD69 ขออาสาพาทุกคนมาทำความรู้จักกับขนมไทยมงคล ที่ทานแล้วสามารถช่วยเสริมดวง เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับเราได้ โดยจะมีขนมไทยมงคลประเภทไหน และแต่ละประเภทจะมีความหมายว่าอย่างไรนั้น ก็มาติดตามขนมไทยมงคลไปพร้อม ๆ กับพวกเรากันได้เลย!!!
ทำความรู้จัก ขนมไทยมงคล
ขนมไทยนับว่าเป็นของหวานที่อยู่คู่ชาวไทยมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยอยุธยาโดยมีท้าวทองกีบม้า หรือ Marie Guimar de Pinha เป็นผู้คิดค้นสูตร และวิธีการทำขนมไทยจนได้รับความนิยมถึงปัจจุบัน ซึ่งขนมไทยนั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ว่าใครได้ลิ้มลอง เป็นอันรู้ว่านี้แหละขนมไทย เพราะส่วนผสมหลัก ๆ ที่โดดเด่นจะมีเพียงแค่แป้ง น้ำตาล และกะทิเพียงเท่านั้น แถมยังมีขั้นตอน กรรมวิธีการทำที่มีความพิถีพิถัน ทำให้รสชาติที่ได้นั้นออกมานั้นถูกปากใครหลาย ๆ คน จนทำให้ขนมไทยกลายเป็นขนมที่คนรู้จักกันทั่วโลก
ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าขนมไทยมงคลนั้นคืออะไร โดยขนมไทยมงคล คือ ขนมที่สามารถเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่ได้รับประทาน ซึ่งเรามักจะเห็นขนมมงคลตามพิธีมงคล และการมอบเป็นของขวัญในวันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลสมรส งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ งานทำบุญบ้าน หรือมอบเป็นของขวัญในเทศกาลสำคัญ ซึ่งขนมไทยมงคลที่นิยมทาน และนำมาจัดในพิธีมงคลต่าง ๆ จะมีด้วยกันทั้งหมด 9 ชนิด ที่ทานแล้วจะโชคดี เสริมดวง เสริมความเจริญรุ่งเรือง
เปิด 9 ขนมไทยมงคล ทานแล้วโชคดี
เรามาดู 9 ขนมไทยมงคลที่ทานแล้วโชคดีกันดีกว่า โดยขนมไทยมงคลทั้ง 9 ชนิดนี้ เชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้จัก และเคยได้ลิ้มลองกันอย่างแน่นอน ซึ่งขนมไทยมงคลนี้จะมีขนมชื่อว่าอะไร และมีความหมายดี ๆ อย่างไรกันบ้าง ก็มารับชม และทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลน
ทองหยิบ
เริ่มกันที่ขนม ทองหยิบ ขนมไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยขนมทองหยิบนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับดอกไม้ ซึ่งขนมทองหยิบนั้นจะทำมาจากไข่แดง หยอดลงไปในน้ำเชื่อมเดือด ๆ เมื่อสุกแล้วก็จะนำมาจับจีบเป็นกลีบดอกไม้ชิ้นพอดีคำ ซึ่งความหมายขนมทองหยิบ คือ ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง คิดและทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือ ซึ่งความหมายของขนมทองหยิบนี้ ได้มาจากคำว่าหยิบ ที่คนโบราณเชื่อว่า หยิบ นั้นหมายถึงการหยิบเงิน หยิบทอง ซึ่งเป็นลักษณะของขนมทองหยิบนั่นเอง
ทองหยอด
ต่อกันที่ขนมไทยชนิดต่อมา เชื่อว่าเป็นขนมไทยที่หลาย ๆ คนชื่นชอบนั่นก็คือ ทองหยอด เป็นขนมไทยมงคลที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับหยดน้ำ หยดเล็ก ๆ ซึ่งทองหยอดนั้นมีส่วนผสมที่คล้ายคลึงกับทองหยิบ เพียงแต่เปลี่ยนกรรมวิธีการทำรูปทรง รูปร่างให้เป็นหยดน้ำเพียงเท่านั้น ซึ่งขนมทองหยอด เรามักจะพบเห็นตามพิธีมงคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลสมรส ขบวนขันหมาก หรืองานบวช โดยขนมทองหยอดมีความเชื่อว่า ถ้าหากใครได้ทานแล้ว จะเป็นการเสริมดวงการเงิน เสริมความร่ำรวย ให้มีเงินกิน มีทองใช้ไม่ขาดมือตลอดทั้งชีวิต
ฝอยทอง
นอกจากทองหยิบ ทองหยอดที่มีส่วนผสมที่คล้ายกันแล้ว ยังมีขนมไทยมงคลอีกหนึ่งอย่าง ที่มีส่วนผสมคล้ายกัน ต่างกันเพียงแค่กรรมวิธีการทำนั่นก็คือ ฝอยทอง โดยฝอยทองจะมีลักษณะเป็นเส้นยาว ๆ คล้ายเส้นหมี่ วางทอดกันเป็นแพ ซึ่งมักจะพบเห็นในตามงานมงคลอย่างงานแต่งงาน เนื่องจากขนมฝอยทองนั้นมีความหมายที่ดี ที่เชื่อว่าใครที่ได้ทาน จะเป็นการครองเรือน ครองรักกันอย่างยาวนาน ชีวิตยืนยาวเหมือนเส้นของฝอยทอง และเสริมโชคลาภ ให้มีเงิน มีทองใช้แบบไม่ขาดสาย
ขนมเม็ดขนุน
ต่อกันที่ขนมไทยมงคลชนิดต่อมา เป็นขนมไทยมงคลที่อยู่ในตระกูลทอง โดยขนมชนิดนี้มีชื่อว่า ขนมเม็ดขนุน เป็นขนมที่ทำมาจากไข่แดง ด้านในสอดไส้ด้วยถั่วเขียวบด รสหวานมัน หอมไข่แดง ซึ่งจะมีรูปร่างคล้ายกับเม็ดขนุนเรียวยาว โดยขนมไทยมงคลชนิดนี้ เชื่อว่าหากทานแล้ว จะเป็นการเสริมดวง เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ความรัก หรือการเงิน รวมทั้งยังช่วยเสริมให้คนรัก คนเอ็นดู มีคนช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
ขนมทองเอก
มาที่ขนมไทยมงคลในตระกูลทองอีกหนึ่งชนิดนั่นก็คือ ขนมทองเอก ขนมไทยที่มีความพิเศษมากกว่าขนมชนิดอื่น ๆ เนื่องจากขนมทองเอกจะลักษณะที่สวยงาม และมีทองคำเปลวติดอยู่ที่ด้านบนของขนม ซึ่งหากใครที่ได้ทานขนมไทยมงคลชนิดนี้ จะสามารถเสริมดวงด้านหน้าที่การงาน การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง รวมทั้งยังเป็นขนมไทยที่เหมาะกับข้าราชการผู้ที่อยากเลื่อนยศด้วย นอกจากนี้ยังเสริมดวงการเงิน และโชคลาภให้มีเงินทองไหลมาเทมาอีกต่างหาก
ขนมดาราทอง
มาต่อที่ขนมไทยมงคลชนิดต่อมา เป็นขนมไทยที่ไม่ค่อยได้ยินชื่อ หรือไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ โดยขนมไทยมงคลชนิดนี้มีชื่อว่า ขนมดาราทอง เป็นขนมไทยที่มีกรรมวิธีการทำที่ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน จึงทำให้หารับประทานได้ค่อนข้างยาก โดยขนมดาราทองจะมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับมงกุฎของฝรั่ง ซึ่งขนมดาราทอง มีความเชื่อว่า หากใครได้ลิ้มลองแล้วจะเป็นการเสริมดวงในเรื่องของหน้าที่การงาน ยศถาบรรดาศักดิ์ มีผู้คนเคารพนับถือมากขึ้น อีกทั้งทานแล้วยังเสริมโชคลาภ เสริมความรุ่งเรืองให้กับชีวิตในทุก ๆ เรื่องอีกด้วย
ขนมถ้วยฟู
สำหรับขนมไทยมงคลชนิดนี้ ถ้าเอ่ยชื่อทุกคนจะต้องรู้จัก และเคยรับประทานกันอย่างแน่นอน นั่นก็คือ ขนมถ้วยฟู ขนมไทยที่มีลักษณะเหมือนเนื้อเค้ก เนื้อนุ่มฟู และมีกลิ่นหอมของดอกไม้สด ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของขนมถ้วยฟูเลยก็ว่าได้ โดยขนมถ้วยฟูเป็นอีกหนึ่งขนมไทยมงคล ที่มักจะพบเห็นตามงานพิธีมงคลต่าง ๆ เนื่องจากทานแล้วจะเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่รับประทาน อีกทั้งยังเสริมความเจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง เฟื่องฟูเหมือนดั่งขนมถ้วยฟูอีกด้วย
ขนมชั้น
ถ้าไม่พูดถึงขนมไทยชนิดนี้ถือว่าพลาดมาก ๆ เนื่องจากเป็นขนมไทยที่ใครหลาย ๆ คนรู้จัก และเป็นของโปรดใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ ขนมชั้น โดยจะต้องมีชั้นทั้งหมด 9 ชั้นขึ้นไป ถึงจะนับว่าเป็นขนมไทยมงคล เนื่องจากมีความเชื่อว่าเลข 9 เป็นเลขมงคล ที่สามารถเสริมดวงการงานให้เป็นที่นับหน้าถือตา ได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง เสริมความเจริญก้าวหน้า และยังเสริมดวงโชคลาภให้มีเงินทองไหลมาเทมา มีกินมีใช้แบบไม่ขาดมืออีกด้วย
ขนมเสน่ห์จันทร์
และมาที่ขนมไทยมงคลชนิดสุดท้าย คือ ขนมเสน่ห์จันทร์ ขนมไทยที่ได้มีการประยุกต์มาจากต้นจันทร์ ที่จะมีรูปร่าง ลักษณะเป็นลูกกลม ๆ ที่มีผลจันทร์ผสมอยู่ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมของผลลูกจันทร์โดยตรง โดยขนมจันทร์นี้ เป็นขนมมงคลที่มักพบเจอตามงานมงคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะงานแต่ง งานบวช งานทำบุญ ซึ่งความหมายของขนมชนิดนี้ หากได้รับประทานแล้ว จะสามารถเสริมดวงความรัก ให้มีคนรักคนหลง เสริมเสน่ห์ให้มีคนเอ็นดู อีกทั้งยังเสริมความเจริญก้าวหน้า และความรุ่งเรืองให้กับชีวิตอีกด้วย
ท้าวทองกีบม้า หรือ Marie Guimar de Pinha ภรรยาของพระยาวิไชเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน ขุนนางกรีกที่รับราชการในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยท้าวทองกีบม้า คือผู้ที่ประดิษฐ์คิดค้นขนมไทยหลาย ๆ ชนิด ไม่ว่าจะเป็นทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, ทองม้วน และขนมหม้อแกง
ขนมไทยมีด้วยกันทั้งหมด 9 ประเภท คือ 1 . ขนมไทยประเภทไข่ ได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง 2 . ขนมไทยประเภทนึ่ง ได้แก่ ขนมชั้น ขนมน้ำดอกไม้ 3. ขนมไทยประเภทต้ม ได้แก่ ขนมต้ม ถั่วแปบ 4. ขนมไทยประเภทน้ำ ได้แก่ กล้วยบวชชี สาคูเปียก ลอดช่อง 5. ขนมไทยประเภทกวน ได้แก่ ตะโก้ ขนมเปียกปูน 6. ขนมไทยประเภทอบ ได้แก่ ขนมหม้อแกง ขนมหน้านวล 7. ขนมไทยประเภททอด ได้แก่ ขนมกง ขนมฝักบัว 8. ขนมไทยประเภทิ้ง ได้แก่ ขนมจาก ขนมเหนียวปิ้ง และขนมประเภทเชื่อม ได้แก่ กล้วยเชื่อม สาเกเชื่อม เป็นต้น
สำหรับขนมไทย 4 ภาค จะมีกรรมวิธี กระบวนการทำ และส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป โดยภาคเหนือ มักจะมีส่วนผสมของข้าวเหนียวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ขนมเทียน หรือขนมจ๊อก ข้าวอีตู ส่วนขนมไทยจากภาคกลาง จะมีส่วนผสมของข้าวเจ้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูน เป็นต้น และส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นขนมที่เน้นทำง่าย อย่างเช่น ข้าวจี่ บายมะขาม ข้าวโป่ง เป็นต้น และภาคสุดท้าย คือภาคใต้ จะเน้นทำขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมบ้า ขนมดีซำ ขนมเจาะหู ขนมไข่ปลา ขนมแดง เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือขนมไทยมงคลทั้ง 9 ชนิด ที่นอกจากจะมีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมทั้งยังมีรสชาติที่เอร็ดอร่อย ถูกปากใครหลาย ๆ คนแล้ว ยังเป็นขนมไทยมงคลที่หากใครได้ลิ้มลอง และรับประทานยังสามารถเสริมดวง เสริมโชคให้มีความเจริญรุ่งเรือง และมีความก้าวหน้าในชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีเสริมดวงที่ทุกคนห้ามพลาดกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้หากใครที่อยากลองเสี่ยงดวง ลุ้นโชคก็สามารถเข้าไปแทงหวยออนไลน์กันได้ที่เว็บเศรษฐี เว็บหวยออนไลน์น้องใหม่ที่มีหวยออนไลน์ให้เลือกลงทุนหลากหลายชนิด ด้วยอัตราจ่ายรางวัลที่สูงที่สุด รับรองว่าลงทุนแล้วรวยเป็นเศรษฐีอย่างแน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
